รองแม่ทัพ พิทักษ์ใจ

          ฉู่ฮั่นเสียน คุณชายสามแห่งสกุลฉู่ ชายหนุ่มหน้าหวานผู้ที่น้อยคนนักจะรู้ว่าเขาเป็นถึงรองแม่ทัพพิทักษ์บูรพายามอยู่ในสนามรบ ชายหนุ่มสามารถตัดสินใจทุกเรื่องได้อย่างเฉียบขาด ฉับไว

ทว่าเมื่อได้พบเจอตงฟางเซียนซึ่งเป็นเพียงสาวน้อยผู้หนึ่ง

ใครจะคาดคิดว่ารองแม่ทัพพิทักษ์บูรพาถึงคราต้องพ่ายแพ้ในสงครามรักให้กับสาวน้อยนางหนึ่งแบบไม่เป็นท่า

------------------------------------------------------------------

     ท่ามกลางเสียงเอะอะ ตงฟางเซียนตื่นขึ้นมาพร้อมกับเสียงโลหะกระทบกัน เมื่อตั้งสติฟังจึงรู้ว่าห่างไปไม่ไกลนักน่าจะเกิดเหตุการณ์ชุลมุนวุ่นวาย

     หญิงสาวสูดหายใจเบาๆ แล้วต้องงอร่างด้วยความเจ็บปวดที่บริเวณท้อง จำได้ว่าก่อนหมดสติไปถูกชกเข้าที่หน้าท้องจนไม่สามารถเปล่งเสียงร้องอันใดได้ กระนั้นก็รู้สึกว่าต้องพยายามหนีไปให้ไวและไกลที่สุด จึงหยัดร่างขึ้นจากพื้นมองไปรอบๆ ซึ่งเต็มไปด้วยดินทรายและต้นหญ้ารกสูงท่วมตัวนาง

     คนพวกนั้นตั้งใจซ่อนตัวนางไว้ตรงนี้

     ท่ามกลางแสงจันทร์สลัวราง นางมองเห็นเงาสีดำขยับไปมา หูแว่วเสียงตะโกนสั่งการต่อสู้ เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดยามที่อาวุธแหลมคมกรีดผ่านร่าง

     เมื่อนางแหวกพงหญ้าขึ้นดูก็ต้องตะลึงงันกับภาพที่เห็น ร่างคนบาดเจ็บล้มตาย บ้างแขนขาขาดออกจากร่างกระจัดกระจายอยู่ทั่วพื้นดินเบื้องหน้า กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้ง พาให้นางคลื่นไส้เกินจะควบคุม

     นางพยายามเพ่งสายตามองไปยังลานดินเบื้องหน้าที่บัดนี้แปรสภาพเป็นสนามรบ แต่จนใจที่ไม่สามารถเห็นหน้าตาที่คุ้นเคยของชายหนุ่ม ใจหนึ่งก็หวังให้เขามาช่วยนางออกจากสถานการณ์เลวร้ายนี้ ทว่าอีกใจหนึ่งก็ไม่ปรารถนาให้เขาต้องมาตกอยู่ในอันตราย

     ร่างบางเคลื่อนกายไปในทิศตรงข้าม พยายามหาทางออกห่างจากลานที่กลายเป็นสนามรบไปทีละนิด ไม่คาดว่าจะมีเงาดำตะคุ่มมาร่วงลงตรงหน้า

     ตงฟางเซียนชะงักเท้าแข็งค้างอยู่กับที่ทั้งยังไม่สามารถควบคุมตัวเองได้เมื่อพบว่าสิ่งที่ร่วงลงมาคือศีรษะของคนผู้หนึ่งที่นัยน์ตายังคงเบิกโพลง

     “กรี๊ด!” เสียงหวีดร้องของหญิงสาวด้วยความหวาดกลัวดังขึ้นท่ามกลางพงหญ้า

     ........................

     เรี่ยวแรงที่นางพยายามฝืนสร้างมาทั้งหมดพังทลายไม่เหลือชิ้นดี ตงฟางเซียนทรุดร่างลงนั่งห่างจากศีรษะของทหารผู้นั้น แม้นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่านั่นคือศีรษะของทหารที่จับตัวนางมา ทว่าหญิงสาวก็น้ำตาไหลอาบหน้ากลมไม่หยุด ประสาทหูปิดกั้นเสียงทุกอย่าง ไม่ได้ยินเสียงร้องโหยหวนหรือเสียงรบราฆ่าฟันใด

     สิ่งเดียวที่ได้ยินตอนนี้คือเสียงร้องไห้และเสียงหัวใจของตนเอง

     จวบจนสัมผัสได้ว่ามีมือคู่หนึ่งยึดไหล่นางไว้จากทางด้านหลัง นางจึงรู้สึกตัวขึ้นมาแล้วนั่งตัวแข็งทื่อด้วยความกลัว ไม่กล้าแม้กระทั่งจะหายใจ

     “เซียนเอ๋อร์...” เสียงทุ้มนุ่มอ่อนโยนดังแทรกเข้ามาในสมองที่ยังมึนงงและหวาดกลัว ทว่าไม่นานนักเมื่อนางจำได้ว่าคือเสียงของฉู่ฮั่นเสียน ก็รีบหันไปมองทันที เมื่อใบหน้าที่นางจดจำได้ปรากฏแก่สายตา ก็รู้สึกเอ่อร้อนที่กระบอกตาอีกหน

     “ฮะ...ฮั่นเสียน...” สิ้นเสียงครางเรียกชื่อชายหนุ่ม ร่างบางก็โผเข้าโอบกอดชายหนุ่มตรงหน้าจนแน่น

     มือหนาโอบกอดร่างบางเอาไว้แนบอก แล้วซุกหน้าลงกับลาดไหล่เล็กของหญิงสาว พึมพำแผ่วเบาอยู่ข้างหูนาง “เซียนเอ๋อร์...เซียนเอ๋อร์ของข้า ขอบคุณสวรรค์ที่เจ้าปลอดภัย”

-----------------------------------------------------------

นักอ่านท่านใดติดตาม "อุบัติรัก เรือนพักใจ" มาก่อนหน้านี้ แล้วประทับใจในความรักน้องเล็กของพี่ชายสกุลฉู่ทั้งสาม หรือติดตาม "ผูกวาสนา อาลักษณ์หลวง" เรื่องราวของพี่ใหญ่บ้านฉู่มาแล้ว รอบนี้ถึงคราวพี่สามของบ้านฉู่กับฟางเซียน สาวน้อยสดใส ที่จะมาทำให้หัวใจของฉู่ฮั่นเสียนสั่นไหวบ้างค่ะ  

มาช่วยลุ้นไปกับความรักในสนามรักที่เกิดขึ้นข้างๆ สนามรบ ของทั้งคู่นะคะ สนุกสนานเฮฮาและอบอุ่นละมุนละไมไม่ไม่น้อยไปกว่าคู่ของเว่ยอี้หลางและฉู่อันหลิน รวมทั้งพี่ใหญ่ฉู่ฮั่นเหลียนและฟางจื้อหนิงแน่นอนค่ะ ^^"

หากใครสนใจ ติดตามอ่านเรื่องราวน่ารักของน้องเล็กบ้านสกุลฉู่ได้ใน "อุบัติรัก เรือนพักใจ" นะคะ 

หรือใครชอบอ่านยาวรวดเดียว ก็มีแบบ e-book เรื่อง อุบัติรัก เรือนพักใจ ค่ะ

https://www.mebmarket.com/ebook-164935-?fbclid=IwAR2MpJViv44KeQuYJM2de3qBYgM1DlCLAcOOnbcoY2kmw92CuFEMQP4IDsY

ส่วนเรื่องที่สองของพี่ใหญ่สกุลฉู่ คือ "ผูกวาสนา อาลักษณ์หลวง" ค่ะ 

หรือกดดู e-book ได้นะคะ https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMjI5OTMwMSI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjY6IjE2ODM5NiI7fQ

 -------------------------------

เรื่องราวไม่ต่อเนื่องกัน อ่านแยกกันได้ แต่ถ้าอ่านต่อกันก็ได้อรรถรสไปอีกแบบค่ะ ^^"